มีมิกับขวัญข้าว
เมื่อคนสองวัยต่างคนต่างต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกันอย่างไม่จบไม่สิ้น ต้องใช้ชีวิตร่วมกันต้องคอยศึกษาซึ่งกันและกันของ มีมิผู้เป็นแม่ที่ต้องคอยตอบคำถามและอบรมสั่งสอนไปพร้อมๆ กันกับขวัญข้าวสาวน้อยวัย 5 ขวบ
ผู้เข้าชมรวม
86
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตอน : หนังปลา
.
ด้วยอารมณ์ของความเป็นแม่เชื่อว่าหลายท่านก็คงไม่แตกต่างกันแน่นอนในความเป็นแม่ดังเช่นแม่ลูกคู่นี้กับอารมณ์ที่หลากหลายของหญิงสองวัย คำถามบางคำถามที่เอ่ยออกจากปากน้อยๆ บางครั้งแม่ก็ต้องหยุดชะงักเหมือนกันคำถามบางคำถามทำให้เราได้ไอเดียใหม่ๆ หรือเข้าใจในตัวลูกมากขึ้นดังหลายๆ เหตุการณ์ของสองแม่ลูกคู่นี้
เช้าในวันที่ต้องเร่งรีบไปทำงานโดยพลขับมีจุดมุ่งหมายในการไปส่งสี่คนสี่แห่ง ทุกคนล้วนถูกจำกัดด้วยเวลาแต่คนที่คอยสร้างปัญหาในกลุ่มมากที่สุดคือคนที่อายุน้อยที่สุด “ขวัญข้าว” สาวน้อยวัยกระเตาะ(แตะ) ขวัญข้าวหรือ เด็กหญิงพาขวัญ (ซึ่งอาจจะเปลี่ยนชื่ออีกในอนาคตอันใกล้นี่) วัย 5 ขวบ เรียนอนุบาล 2 ของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งที่มีนิสัยเหมือนเด็กทั่วไป สงสัย อยากรู้อยากเห็น ช่างซักถาม และบางครั้งเป็นคำถามที่เราคาดไม่ถึง
ในขณะที่ทุกคนกำลังรีบ ปะ(พ่อ)ถอยรถออกไปรอที่หน้าบ้านพี่เคนเก็บกระเป๋าไปขึ้นรถ ขวัญตัวป่วนอยู่ในบ้านเกิดอยากกินหนังปลา (ไม่ต้องแปลกใจคะเพราะเด็กหลายคนอาจเป็นเหมือนกัน คือชอบกินหนัง เช่น หนังไก่ หนังหมู หนังปลา และตาปลา) ซึ่งขวัญข้าวชอบกินทั้งหมดถึงแม้สัตว์บางชนิดแทบหาหนังไม่เจอก็ต้องพยายามหาให้เจอ เธอยังวนเวียนอยู่ที่ประตูห้องครัวจนผู้เป็นแม่(มีมิ)ทนไม่ได้
“ทำไมขวัญข้าวไม่ไปขึ้นรถสักทีทุกคนเขารออยู่” แม่ถามอย่างอารมณ์เสีย ซึ่งแตกต่างจากลูกสาว
“ขวัญข้าวอยากกินหนังปลา” เกิดอยากกินตอนนี้หนะ
“มันสายแล้ว ปะกับพี่เคนรออยู่” แม่ตอบเสียงแข็งมากขึ้นพร้อมสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์
“น่านะมิกินนิดเดียว ขวัญกินนิดเดียวมีมิ” เธอยังคงอ้อนหารู้ไม่ว่าอารมณ์ของผู้เป็นแม่เริ่มจะระอุแต่ไม่กล้าแสดงออกกับลูกมาก
“น่านะมิขวัญกินแป๊บเดียวนะ” เธอยังอ้อนต่อ
ผู้เป็นแม่ต้องเดินเข้าบ้านอีกครั้ง ด้วยคิดว่าถ้าไม่ได้กินคงไม่จบทั้งที่ออกไปรอที่นอกบ้านต้องถอดรองเท้าอีกครั้ง (อารมณ์ขี้เกียจไม่อยากถอด) ไหนคนที่นั่งรอที่รถอีกจึงต้องเข้าไป
“มา” แม่พูดเสียงแข็ง โดยมีลูกสาวตัวน้อยเดินตามหลังมาติดๆ
ด้วยครัวที่เป็นลักษณะบิ้วอินโต๊ะสูงระดับเอว ทำให้ขวัญข้าวต้องมีเก้าอี้เฉพาะตัวที่คอยลากไปลากมาในกรณีที่เอื้อมไม่ถึงหรือมองไม่เห็นในช่วงที่แม่หรือยายทำกับข้าวเก้าอี้ตัวนั้นจะเป็นผู้ช่วยเธอได้ดี เช่นกันเธอเดินไปลากเก้าอี้มาขึ้นเหยียบเพื่อให้มองเห็นเนื้อปลาในหมอที่ผู้เป็นแม่กำลังจะตักขึ้นมาในขณะเดี๋ยวกันก็วิวายยังมีคำถาม
“มิโกธรขวัญเหรอ” เธอเอียงคอถามเอามือเท้าโต๊ะนัยน์ตาตาใสซื่อ
“ไม่” แม่ตอบน้ำเสียงห้วนๆ
“แล้วทำไมมิทำหน้าเหมือนตอนมิโกธรขวัญเลยล่ะ”
นั่นไงคำถามที่ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องลดระดับอารมณ์ลงอีกครั้ง ถึงแม้จะพยายามกดอารมณ์ไม่แสดงอารมณ์โกธรแต่ลูกสาวยังคงสังเกตสีหน้าเราได้ โอ้เราจะพูดหรือโกธรอะไรกับลูกสาววัย 5 ขวบแบบไม่มีเหตุผลไม่ได้ต่อไปแล้วนะทุกอย่างต้องแนบเนี่ยให้มากขึ้น ผู้เป็นแม่ฉุกคิด และควรจะพูดด้วยเหตุผลมากกว่า ในขณะที่กำลังคิดหาคำตอบให้ลูก มือก็ตักหาหนังปลา
“นั่นๆ ล่ะมิ ..พอพอขวัญกินแค่นี้” เธอไม่ได้สนใจคำตอบแต่สนใจหนังปลาที่แม่กำลังพยายามหาให้อยู่
“แค่เนี่ย” แม่ถามเสียงสูง
“ใช่ ขวัญอยากกินเฉยๆ”
“อืม” แม่พูดพร้อมกับตักหนังปลาเข้าปากให้
“อื่มๆ อร่อยมากพอล่ะมิ” พูดเสร็จเธอก็ลงจากเก้าอี้ผู้ช่วยแล้วลากไปไว้ที่เดิมเดินออกจากห้องครัว โดยผู้เป็นแม่เดินตามออกมาอย่างเสียไม่ได้ ปล่อยให้แม่ที่อารมณ์ขุ่นมั่วอยู่ปรับอารมณ์อยู่คนเดียว
ลูกก็คือลูกเสมอวีรกรรมของเธอยังไม่หมดรออีกตอนต่อไปนะค่ะ
*มีมิ*
ผลงานอื่นๆ ของ ป้ามัส ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ป้ามัส
ความคิดเห็น